วันพุธที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

เทศกาลโอบ้ง (Obon お盆)


เทศกาลโอบ้ง (Obon お盆)
ตรงกับวันที่ 13-16 สิงหาคมของทุกปี ซึ่งคนญี่ปุ่นไม่ว่าจะไปอยู่แห่งหนตำบลใดจะพยายามกลับมายังบ้านเกิดของตนเองเพื่อมากราบไหว้บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว คนญี่ปุ่นมีความเชื่อว่าดวงวิญญาณของบรรพบุรุษจะได้รับอนุญาติให้กลับมายังโลกอย่างอิสระในช่วงเวลานี้ ดังนั้นบุตรหลานจะเตรียมสำรับอาหารต่างๆพร้อมดอกไม้ไว้บนหิ้งที่กราบไหว้บรรพบุรุษซึ่งมีชื่อเรียกว่า “บุสึดัง” เพื่อต้อนรับดวงวิญญาณและไปกราบไหว้พร้อมทำความสะอาดหลุมศพ (โอฮากะ Ohaka ) จะมีการจุดไฟต้อนรับที่หน้าบ้านและในวันสุดท้ายจะจุดไฟ “โอคุริบิ (Okuribi)” เพื่อส่งกลับวิญญาณบรรพบุรุษว่าไปแล้วก็คล้ายช่วงเช็งเม้งของบ้านเราเพียงแต่นอกเหนือจากพิธีกรรมที่กล่าวมาแล้วเค้ายังมีการจัดเฉลิมฉลอง “เทศกาลโอบ้ง” หรือ "โอบ้งมาซึรี " แทบจะทุกท้องถิ่นคล้ายๆงานวัดในบ้านเรา จะมีการตีกลองพร้อมเต้นรำกันอย่างครื้นเครงซึ่งจะจัดกันเกือบ 1 เดือนเต็มโดยจัดตามที่ต่างๆที่ละ 3-4 วัน เชื่อว่าเป็นการสร้างความสุขให้กับดวงวิญญาณก่อนเดินทางกลับไปยังสรวงสวรรค์


มีการจุดคบกองไฟซึ่งเรียกว่า "มุคาเอฮิ (Mukaehi)" เพื่อให้ดวงวิญญาณของบรรพบุรุษได้เดินทางกลับมาหรือกลับไปโดยไม่หลงทางไปไหน บางสถานที่ใมีการก่อไฟเป็นรูปตัวอักษรอย่างเช่นที่จังหวัดเกียวโตทุกๆปีจะมีจุดอักษรคันจิคำว่า “ ได(Dai大) ” มีความหมายว่ายิ่งใหญ่ที่วัด " ไดม่อนจิ (Daimonji 大文字)" ซึ่งเป็นวัดที่มีชื่อเสียงของเกียวโต ทางวัดได้จุดคบไฟบนภูเขาซึ่งสามารถเห็นในระยะไกลจนเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเทศกาลโอบ้งนี้โดยจุดคบไฟเช่นนี้ สืบเนื่องกันมาตั้งแต่ในสมัยเอโดะ


ติดต่อสอบถามท่องเที่ยว
http://www.iam-tour.com/


เทศกาลวันเด็กผู้ชาย หรือ โคโดโมะโนฮิ (Kodomonohi)!!



         เทศกาลวันเด็กผู้ชายนี้ ทางญี่ปุ่นได้รับอิทธิพลการเฉลิมฉลองเทศกาลสำคัญ ในวันที่ 5 เดือน 5 (พฤษภาคม) นี้มาจากประเทศจีน และหมู่บ้านในตระกูลนักรบทั้งหลาย เมื่อให้กำเนิดบุตรชายจะนำธงสัญลักษณ์ประจำตระกูลติดประดับไว้หน้าประตูทางเข้า จนกระทั่งแพร่หลายไปในหมู่บ้านของประชาชนทั่วไป แต่ด้วยมีคำสั่งที่ไม่อนุญาติให้ประชาชนติดตั้งตรา หรือธงประจำตระกูลได้ จึงได้มีการปรับเปลี่ยนมาเป็นธงปลาคาร์ฟ เพื่อความหมายที่เป็นสิริมงคลแก่บุตรชายและครอบครัว
               
           ในบ้านมีการจัดพิธีบูชาตุ๊กตานักรบ ซึ่งประกอบด้วยเสื้อเกราะ หมวกเกราะหรือที่เรียกว่า “โกะงัสสึ นิงเงียว”เพื่ออธิษฐานขอให้บุตรชายที่รักมีสุขภาพแข็งแรง ไร้โรคภัยไข้เจ็บ นอกจากนี้ยังมีการใช้ดอกโชบุและดอกคะชิวะและโมะติ ประดับไว้กับตุ๊กตานักรบที่ชื่อว่า Kabuto และมีการดื่มสาเกฉลองเช่นเดียวกับเทศกาลวันเด็กผู้หญิง
Kabuto 

          โดยเทศกาลนี้เริ่มทำกันมาตั้งแต่สมัยเอโดะ จนกระทั่งปี 1948 ทางรัฐบาลญี่ปุ่นได้กำหนดให้วันที่ 5 พฤษภาคมของทุกปี เป็นวันเด็กผู้ชาย และธงปลาคาร์ฟจึงเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเทศกาลนี้ ธงปลาคาร์ฟทั่วๆ ไปที่ ประดับกันนั้นทำจากกระดาษหรือผ้าที่มีขนาดประมาณ 1-2 เมตร นำไปแขวนบนเสาที่ติดไว้บริเวณระเบียงบ้าน สำหรับเสาและธงนั้น ตามมาตราฐานแล้ว ด้านบนของเสาจะเริ่มจากธงสีสายรุ้งที่ไม่ได้เป็นรูปปลาคาร์ฟ ถัดมาจึงเป็นปลาคาร์ฟสีดำ หมายถึงพ่อ ตามด้วยปลาคาร์ฟสีแดง หมายถึงแม่ และจะตามด้วยปลาคาร์ฟตัวเล็กๆ ลดหลั่นกันไปตามจำนวนลูกผู้ชายในบ้าน ซึ่งจะมีทั้งสีฟ้าและสีเขียว

           นอกจากนี้ การประกาศให้วันที่ 5 พฤษภาคม เป็นวันเด็ก และเป็นวันหยุดราชการ จึงทำให้ชาวญี่ปุ่นมีวันหยุดติดต่อกันเป็นเวลานาน เพราะอยู่ในช่วง Golden Week สัปดาห์ของการพักผ่อนของทุกปีนั้นเอง ทำให้ชาวญี่ปุ่นได้หยุดยาวกันตั้งแต่วันที่ 29 เมษายน ซึ่งเป็นวันคล้าย วันประสูติของจกรพรรดิโชวะ ปัจจุบันเรียกว่า วันมิโดริหรือวันสีเขียว เพื่อรณรงค์เรื่องสิ่งแวดล้อมและการอนุรักษ์ต้นไม้ ถัดมาคือวันหยุดวันที่ 3 ฟฤษภาคม ที่เป็นวัน รัฐธรรมนูญ ต่อมาเป็้นวันที่ 4 พฤษภาคม เป็นวันหยุดประชาชาติ และ 5 พฤษภาคม นี้ ก็เป็นวันเด็กแห่งชาติ นั่นเอง

ติดต่อสอบถามท่องเที่ยว
http://www.iam-tour.com/

เทศกาลวันฉลองบรรลุนิติภาวะ"เซะจิน โนะ ฮิ" !!



 
วันฉลองบรรลุนิติภาวะ ทุกวันจันทร์ที่ 2 มกราคมของทุกปี สำหรับคนญี่ปุ่นถือเป็น วันหนึ่งที่มีความสำคัญถึงกับได้รับการยกให้เป็นวันหยุดนักขัตรฤกษ์เลยทีเดียว ซึ่งวันนั้น ก็คือ วันฉลองบรรลุนิติภาวะ 成人の日( seijin no hi ) ถ้าแปลเป็นภาษาอังกฤษ จะได้ว่า Coming of Age day ซึ่งถ้าแปลตามตัวกันจริงๆ ก็คือ วันผู้ใหญ่ หรือวันสำคัญของการก้าวย่างสู่ความเป็นผู้ใหญ่


วันฉลองบรรลุนิติภาวะนี้ ก่อนปี 2000 นั้น ถูกกำหนดไว้เป็นทุกวันที่ 15 มกราคมของทุกปี แต่เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงทาง ด้านกฎหมาย ทำให้มีการเปลี่ยนวันฉลองบรรลุนิติภาวะนี้ ให้เป็นวันจันทร์ที่ 2 ของเดือนมกราคมแทน เพื่อที่จะมีผลทำให้ เกิดวันหยุด 3 วันติดต่อกัน (คือวันเสาร์ อาทิตย์ และจันทร์) ซึ่งมักเรียกกันโดยทั่วไปว่า ซุปเปอร์มันเดย์ ซึ่งจะเป็นวันหยุดแรก หลังจากเปิดทำงานหลังเทศกาลขึ้นปีใหม่

        ในวันฉลองบรรลุนิติภาวะนั้น ทางเมืองต่างๆ จะจัดพิธีมอบประกาศนียบัตร และให้โอวาทกับกลุ่มบุคคลที่ถือว่าเป็นผู้ใหญ่รุ่น ใหม่ ในพิธีบรรลุนิติภาวะ หรือ 成人式(seijin shiki )


ที่มาของวันฉลองบรรลุนิติภาวะนี้ มีที่มาจากพิธีที่จัดขึ้นในสมัยโบราณเพื่อรับรองว่าเด็กผู้ชายที่มีอายุครบยี่สิบปีบริบูรณ์ได้ เปลี่ยนสถานภาพเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้ว เรียกว่า 元服 (genpuku)

 

ส่วนรูปแบบที่ได้มีการพัฒนามาเป็นวันฉลองบรรลุนิติภาวะอย่างในปัจจุบันนั้น เริ่มมีมา ตั้งแต่หลังหมดสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปีโชวะ 21 (ค.ศ. 1946) ทางรัฐบาลต้องการ เสริมสร้างขวัญและกำลังใจให้บรรดาเหล่าชายวัยรุ่นได้มีความหวังที่สดใส โดยในครั้ง แรก เรียกว่า 成年式 (seine n shiki) และในอีกสองปีต่อมา ปีโชวะ 23 (ค.ศ. 1948) ได้มีการกำหนดให้ทุกวันที่ 15 มกราคมของทุกปี เป็นวันทีจัดพิธี 成人式 ( seijin shiki ) ซึ่งในปี 2000 ได้เปลี่ยนเป็นทุกวันจันทร์ที่ 2 ของเดือนมกราคม


ติดต่อสอบถามท่องเที่ยว
http://www.iam-tour.com/

รวมผลงานซีรี่ย์ คาเมนาชิ !!



Tokyo Bandwagon (NTV,2013)


ซีรีย์เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของร้านขายหนังสือที่เป็นร้านขายหนังสือมือสองที่ชื่อว่า Tokyo Bandwagon ซึ่งตั้งอยู่ในแถบซานเมืองของโตเกียว ร้านนี้เป็นอาคารที่ดูเก่าแก่แต่ภายในร้านมีคาเฟ่เล็กๆ อยู่ภายในนี้ด้วย มันเป็นที่อาศัยของครอบครับขนาดใหญ่อาศัยอยู่ด้วยกันถึงสี่รุ่นแล้ว และครอบครัวนี้ต่างก็ช่วยเหลือและช่วยหาทางแก้ไขปัญหาต่างๆให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการ ตามคำสอนที่แปลกจากบรรพบุรุษของเขา โดย Ao Hotta (Kazuya Kamenashi) เขาเป็นชายหนุ่มอายุวัย 26 ปี เขาเป็น freelance travel agency guide เขาเป็นหนุ่ม Playboy ที่บรรดาสาวๆ ต่างพากันหลงใหลในตัวเขา และด้วยการพูดจาและท่าทางที่มักจะดู เคร้าๆ ทำให้สาวๆ บรรดาใจอ่อนให้กับเขา แต่เขามาพบกับ มาคิโนะ ซูซูมิ เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย ทำให้เขาตกหลุมรักเธอแบบทั้งกายทั้งใจ ... แล้วเขาจะทำอย่างไรต่อไป โปรดติดตามชมซีรีย์เรื่องนี้

Yakai Ningen Bem


เบม (คาเมะนาชิ คาซึยะ), เบลล่า (แอน) และ เบลโล่ (ซูซูกิ ฟุคุ) เป็นสัตว์ประหลาดหน้าตาอัปลักษณ์ที่ไม่ได้เป็นทั้งมนุษย์หรือสัตว์ แต่พวกเขาเป็นฮีโร่ที่รักความสงบและความถูกต้องที่ใส่ใจช่วยเหลือมนุษย์ที่ กำลังเดือนร้อน เพราะว่าพวกเขาเป็นสัตว์ประหลาด จึงเป็นที่กลัวและรังเกียจโดยพวกมนุษย์ ยิ่งไปกว่านั้นยังถูกตามล่าโดยตำรวจ อย่างไรก็ตาม มิตรภาพระหว่างพวกเขากับนักสืบ (คิตามุระ คะซุกิ) พัฒนาขึ้นโดยความบังเอิญ เมื่อได้ติดต่อคบกับมนุษย์ ความปรารถนาอย่างแรงกล้าของ เบม, เบลล่า และ เบลโล่ ที่อยากจะกลายเป็นมนุษย์ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาต่อสู้กับปิศาจร้ายเพื่อปกป้องมนุษย์ ด้วยความเชื่อว่าพวกเขาจะสามารถกลายเป็นมนุษย์ได้ในวันหนึ่ง


Yamato Nadeshiko Shichi Henge as Takano Kyohei (TBS, 2010)


คาเมนาชิ แสดงในบทหนุ่มหล่อ ใจร้อน และชอบวิวาท เป็นนศ.มหาวิทยาลัยที่แข็งแกร่งผู้ไม่เคยแพ้ใคร 
และยังจะมีหนุ่มหล่ออีก 3 คนร่วมทีมซึ่งเช่าห้องอยู่ในบ้านหลังเดียวกับคาเมนาชิ ประกอบด้วยเทโกชิ ยูยะจากวงนิวส์ 
อุจิ ฮิโรกิ จากค่ายจอห์นนี่ จูเนียร์ และนักบัลเล่ต์มิยาโอะ ชุนทาโร่ รวมทั้งนางเอกของเรื่องจะแสดงโดยนักแสดงวัยรุ่นที่เป็นที่นิยม 
โอมาซะ อายะ โอมาซะแสดงเป็นนางเอกที่แปลกอยู่สักหน่อย เพราะโปรดปรานเรื่องสยองขวัญ แต่ต้องมาเกี่ยวพันกับ 4 หนุ่มหล่อ 
เป็นละครโรแมนติค สยองขวัญ คอเมดี้ ที่จะให้คุณกลัว หัวเราะและร้องให้


Mr. Brain (TBS, 2009, ep. 03)


เป็นซีรี่ส์ที่สะท้อนมุมมองการทำงานด้านนิติวิทยาศาสตร์ ประสาทวิทยา แพทย์ และตำรวจผู้พิทักษ์ประชาชน นำแสดงโดยนักแสดงชื่อดังอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น ทาคุยะ คิมุระ กับบทบาทของ คนบ๊องๆ แต่ อัฉริยะเกินคน เขาคือนักประสาทวิทยา ที่ทำงานให้กับสำนักงานนิติวิทยาศาสตร์

Kami no Shizuku [神の雫] (NTV : 2009-Jan-13 to 2009-Mar-10)


1 Pound no Fukuin [1ポンドの福音] (NTV : 2008.01.12~21.00)


ฮาทานากะ โคซากุ เป็นนักชกคนเก่งของสำนักมวยมูไคดะ เค้าชกเก่ง มากแต่ทว่า เขาไม่สามารถควบคุมความอยากอาหารได้ เขากินๆๆๆ ทำให้น้ำหนัก เพิ่ม ก็เลยถูกบังคับให้ต้องแข่งในมวยรุ่นใหญ่กว่า ทำให้ผลออกมาแย่ ซิสเตอร์ แองเจล่า เป็นแม่ชีฝึกหัด ตกหลุมรัก โคซากุ เธอคอยให้กำลังใจเขา และทำทุก อย่างที่คิดว่าจะลดน้ำหนักโคซากุได้ เธอรู้ว่าโคซากุรักเธอและ เธอก็ดูเหมือนจะรัก เขาเช่นกัน(แม้เธอจะไม่ยอมรับมัน) แต่ทว่า...นางชี...ไม่สมควรจะมีความรัก แล้ว รักของเขาทั้งสองจะสมหวังได้อย่างไร..... 


Tatta Hitotsu no Koi [たったひとつの恋] (NTV : 2006.10.14~12.16)


ละครความรักที่น่าประทับใจอีกเรื่องที่ไม่ควรพลาด เด็กหนุ่มฮิโรโตะ คันซากิที่เป็นลูกชายของเจ้าของโรงซ่อมเรือ เขาต้องเป็นเสาหลักสำคัญของครอบครัวต้องคอยแก้ปัญหาด้านการเงินของครอบครัว แต่เพราะเหตุบังเอิญทำให้เขาได้รู้จักกับนาโอะที่เป็นผู้หญิงที่ร่างกายอ่อนแอ ซึ่งเป็นลูกสาวของเจ้าของจิวเวอร์รี่ใหญ่ ความรักของพวกเขาจะต้องฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ นานา และยังต้องเผชิญกับความแตกต่างของฐานะของทางครอบครัวทั้งสอง พวกเขาจะสามารถครองรักกันได้หรือไม่ หรือจะเป็นได้เพียงแต่ความงดงามของความรักในวัยรุ่น อีกเรื่องที่ขอการันตีว่าไม่ควรพลาดจากนักเขียนคนเดียวกับเรื่อง Long Vacation


Yuuki [ユウキ] (NTV : 2006.08.26)





 Sapuri [サプリ] (FujiTV : 2006.07.10~09.18)



Minami (Itoh Misaki) พนักงานบริษัทโฆษณา เธอเป็นผู้หญิงเก่งที่ชอบการทำงาน พร้อมเสมอที่จะทุ่มเทเวลาให้ถ้าเป็นเรื่องของงาน วันหนึ่งเธอเก็บโทรศัพท์มือถือที่ทำตกในรถไฟได้เพราะเจ้าของโทรศัพท์โทรเข้ามาซึ่งก็คือ Yuya (Kamenashi Kazuya) เขามีนัดที่จะไปสัมภาษณ์เพื่อเป็นเด็กฝึกงาน แต่เขาก็สองจิตสองใจ โดยพูดให้มินามิฟัง ซึ่งกลายเป็นว่าเขาก็โดนมินามิดุว่าถ้าคนเราไม่ทำงานมันไม่ได้นะ มินามิบอกว่าจะเอาโทรศัพท์มือถือไปไว้ให้ที่จุดของหาย สองคนนี้จึงไม่ได้เจอกัน อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ต้องพบกันอยู่ดี เพราะบริษัทที่ยูยะไปเป็นเด็กฝึกงานก็คือบริษัทโฆษณาของมินามินั่นเอง


Nobuta wo Produce [野ブタ。をプロデュース] (NTV : 2005.10.15~12.17)


ชูจิ คิริทานิ เป็นนักเรียนหนุ่มป๊อปปูล่าในโรงเรียน เขาเป็นจอมโกหกและไม่เปิดเผยตัวจริง ซึ่งอันที่จริงเขาเพียงแค่เบื่อหน่ายกับชีวิตวัยเรียนและสังคมเดิมๆ เขาเห็นว่าการเป็นที่นิยมชมชอบของเพื่อนๆ มันเป็นเพียงแค่เกมเกมหนึ่งที่เขามีส่วนร่วมอยู่ในนั้นและเล่นบทบาทของชูจิ และทำทุกอย่างเพียงเพื่อคงสถานะความเป็นนักเรียนที่โรงเรียนนั้น เพราะฉะนั้นเขาคบอยู่กับ มาริโกะ อุเอฮาระ นักเรียนสาวที่น่ารักที่สุดในโรงเรียน ทว่าเขากลับไม่ได้รู้สึกพิเศษอะไรกับเธอเลยและโกหกเธอมาตลอด และแม้กระทั่งความรู้สึกกับเพื่อนนักเรียนชายเช่นกัน 


Gokusen 2 [ごくせん 第2] (NTV : 2005.01.15~03.19)


เมื่อคุมิโกะ ยามากุจิพบกับเด็กนักเรียนห้อง 3-D จึงรู้ว่าในห้องมีแต่เด็กเกเรไม่เชื่อฟังในสิ่งที่เธอพูด เธอพยายามให้กำลังใจตนเองทุกครั้ง สาเหตุที่เด็กนักเรียนห้อง 3-D เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าพวกเขาไม่ไว้ใจอาจารย์์ แต่สำหรับ คุมิโกะ ยามากุจิอยากให้ลูกศิษย์ในห้อง 3-D เข้าใจและมั่นใจในตัวเธอเธอให้ความสำคัญกับเด็กนักเรียนในห้องทุกคน เด็กนักเรียนที่มีค่าสำหรับเธอ

คุมิโกะ ยามากุจิต้องใช้ความพยายามที่จะปรับตัวกับนักเรียนและให้ตั้งใจกลับมาเรียนให้ได้ก่อนที่พวกเขาจะเรียนจบ เรื่องราวความเข้มข้นนั้นต้องคอยติดตามในละคร รับรองว่าไม่สนุกแพ้ภาคหนึ่ง


ติดต่อสอบถามท่องเที่ยว


มาทำความรู้จักกับอักษรญี่ปุ่นกันเถอะ!!

ในภาษาญี่ปุ่นจะใช้อักษรอยู่ 3 ประเภท คือ


(1) อักษรฮิระงะนะ 『ひらがな』
- เป็นอักษรดั้งเดิมของญี่ปุ่นเลยค่ะ ใช้เขียนคำที่แสดงความหมายหลัก ๆ หรือพูดง่าย ๆ ก็คือใช้เขียนคำของภาษาญี่ปุ่นแท้ ๆ ค่ะ
- บางที เราก็จะเห็นว่าอักษรนี้เขียนกำกับเสียงอ่านอยู่บนตัวอักษรคันจิ ซึ่งตรงนี้เราจะเรียกอีกอย่างว่า "ฟุริงะนะ" ค่ะ 『ふりがな』
- ลักษณะของอักษรฮิระงะนะ ใช้วิธีการจำง่าย ๆ ว่ารูปร่างของมันจะอ่อนช้อยราวกับเกอิชาร่ายรำค่ะ


(2) อักษรคะตะคะนะ 『カタカナ』
- เป็นอักษรที่ใช้ทับศัพท์ภาษาที่มาจากต่างประเทศค่ะ เช่น ชื่อเฉพาะหรือคำศัพท์ต่าง ๆ ชื่อบุคคล, สถานที่หรือพวกชื่อพืชและสัตว์ คำเลียนเสียง หรือใช้กรณีที่ต้องการเน้นคำก็ได้ค่ะ
- ลักษณะของอักษรคะตะคะนะ เมื่อลองเปรียบเทียบกับกับฮิระงะนะแล้ว อักษรคะตะคะนะจะมีลักษณะดูแข็ง ๆ ไม่อ่อนช้อยค่ะ แต่ก็มีอักษรคะตะคะนะบางตัวที่คล้ายกับอักษรฮิระงะนะนะคะ ยังไงก็ต้องระวังด้วยค่ะ


(3) อักษรคันจิ 『漢字』
- เป็นอักษรที่คนญี่ปุ่นยืมเข้ามาจากจีนค่ะ โดยส่วนใหญ่แล้วจะเหมือนคำจากภาษาจีนเลย แต่ก็จะมีบางคำที่ญี่ปุ่นนำมาดัดแปลงเอง
- ใช้แสดงความหมาย เช่น พวกคำนาม คำกริยา ฯลฯ
- อักษรคันจินั้นอักษรแค่ 1 ตัวจะแทนทั้งเสียงและความหมาย (เราจะเห็นว่าคนญี่ปุ่นชอบนำอักษรคันจิมาใช้ผสม ๆ กันทำเป็นชื่อพิเศษต่าง ๆ ที่ดูแล้วเท่ ๆ ไงคะ)
- คนญี่ปุ่นมักจะนำอักษรคันจิมาใช้คู่กับฮิระงะนะหรือคะตะคะนะ หรือบางทีก็ใช้ตัวเดียวโดด ๆ ไปเลยค่ะ
- เสียงอ่านของอักษรคันจิจะมีอยู่ 2 แบบ คือ แบบ "คุงโยมิ" 『訓読み』 และ "องโยมิ" 『音読み』 ค่ะ
- เสียงแบบ "คุง" จะเป็นเสียงอ่านแบบญี่ปุ่น ซึ่งมักอ่านแบบนี้เมื่อเจอคันจิผสมมากับฮิระงะนะค่ะ ส่วนเสียงแบบ "อง" จะเป็นเสียงอ่านแบบจีน จะอ่านแบบนี้เมื่อเจอคันจิตั้งแต่ 2 ตัวขึ้นไป แต่ก็ไม่มีกฏตายตัวค่ะ
- ในประเทศญี่ปุ่นมีการบัญญัติให้อักษรคันจิ 1,945 ตัวเป็น "โจโยคันจิ (คันจิที่ใช้บ่อย)" 『常用漢字』 เพื่อจำกัดจำนวนคันจิในระดับหนึ่ง เพื่อไม่ให้มีคันจิยาก ๆ มากเกินไปค่ะ (แต่ก็มีคันจิยาก ๆ ใช้บ้างประปราย)



ติดต่อสอบถามท่องเที่ยว
http://www.iam-tour.com/


ประโยคสนทนาทักทายพื้นฐานญี่ปุ่น!!!


1.おはようごさいます。: Ohayoogosaimasu. : สวัสดีตอนเช้าค่ะ

2. こんいちは。: Konnichiwa : สวัสดีตอนกลางวันค่ะ (10.00-18.00 น.)

3. こんばんは。: Kombanwa : สวัสดีตอนค่ำค่ะ

4. おやすみなさい。: Oyasuminasai : ราตรีสวัสดิ์

5. さよなら。: Sayonara : ลาก่อน

6. わたし は ชื่อของเรา です。: Watashi wa ชื่อของเรา desu : ฉัน/ผมชื่อ ชื่อของเรา

7. はじめまして、どうぞよろしく。(おねがいします) : Hajimemashite、doozo yaroshiku (Onegai shimasu) : ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ (ขอความกรุณา)

8. はい、そうです。: Hai、soodesu : ใช่แล้วค่ะ (ใช้ในการตอบรับได้ทุกกรณี)

9. いいえ、ちがいます。: Iie、chigaimasu : ไม่ใช่ค่ะ (ใช้ในการปฏิเสธได้ทุกกรณี)

10. おげんきですか?。: Ogenki desuka : สบายดีหรือค่ะ

11. はい、げんきです。: Hai、genki desu : ค่ะ、สบายดีค่ะ

13. いいえ、げんきではありません。: Iie、genkidewa arimasen : ไม่ค่อยสบายค่ะ

14. ありがとうございます。: Arigatoo gozaimasu : ขอบคุณค่ะ

15. どういたしまして。: Doo itashimashite : ไม่เป็นไรค่ะ

16. ではまて、ありましょ。: Dewa、mata aimasho : แล้วพบกันใหม่

17. はい、またあいましょ。: Hai、mata aimasho : ค่ะ、แล้วพบกันใหม่

18. すみません。: Somimasen : ขอโทษ (ขอทาง , สอบถาม)

19. ごめんあさい。: Gomennasai : ขอโทษ

20. しつれいします。: Shitsureishimasu : ขอโทษ (ที่เสียมารยาท , ขออนุญาต , ขอโทษที่รบกวน)

21. おめでとうごさいます。: Omedetoogosaimasu : ขอแสดงความยินดี (ใช้ได้ทุกโอกาส เช่น วันเกิด , สำเร็จการศึกษา)

22. いってきます。: Ittekimasu : ไปแล้วนะ (ใช้เมือ่ออกจากบ้าน)

23. いって (い) らっしゃい。: Itte (i) rasshi : รีบไปรีบมานะ

24. ただいま。: Tadaima : กลับมาแล้วนะ

25. おかえりなさい。: Okaerinasai : กลับมาแล้วหรอ

26. いただきます。: Itadakimasu : ใช้พูดก่อนเริ่มรับประทานอาหาร

27. ごちそうさまでした。: Gochisoosamadeshite : ใช้พูดเมื่อรับประทานอาหารเสร็จแล้ว


ติดต่อสอบถามท่องเที่ยว
http://www.iam-tour.com/

วันอังคารที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

พี่มากพระโขนง เข้าฉายแล้วที่ญี่ปุ่น!!



พี่มากพระโขนง หนังที่ทำรายได้สูงสุดหลายประเทศกำลังจะเข้าฉายที่ญี่ปุ่น หลังญี่ปุ่นได้ชื้อตัวหนังไปเรียบร้อยแล้วและเตียมจะเข้าฉายในวันที่ 18 ตุลาคม นี้ โดยใช้ชื่อเรื่องว่า 愛しのゴースト แปลว่า ผีที่รัก โดยจะฉายทั้งหมดสี่โรง คือ
โตเกียวที่  Roppongi และ Shibuya
ชิบะ โรงละคร Kinema Junpo
โอซาก้า  Cine Libre Umeda

                                  
และถูกฉายไปก่อนแล้วช่วงระหว่างวันที่ 13 - 23 กันยายน 2556 ที่ฟุคุโอกะมีงาน Focus on Asia Fukuoka International Film Festival เป็นงานที่จัดขึ้นทุกปี มีภาพยนต์จากหลาย ๆ ประเทศมาฉาย เช่น อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ไต้หวัน เกาหลี ไทย ฯบัตรราคา 1200 เยน ถ้าซื้อล่วงหน้า 1000 เยน ถ้า 4000 เยน ได้ตั๋ว 5 ใบ
แล้วก็มีแบบดูกี่รอบก็ได้ 10000 เยน

โดยมีหนังไทยมาฉายเรื่องเดียวคือ พี่มาก
พี่มากมีฉายทั้งหมด 4 รอบ คือ


โปสเตอร์หน้าโรง


           สรุป จากคนญี่ปุ่นที่ไปดูก็เหมือนที่พอจะเข้าใจภาษาไทยบ้าง เขาก็ขำ แต่ก็ไม่ทุกมุข
พอหนังจบแล้วเขาบอกว่า เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง บางมุขก็ยากเกินกว่าจะเข้าใจ เช่น ใบ้คำว่า ผีเสื้อ
เพราะดูจากตัวคันจิภาษาญี่ปุ่นที่แปลแล้ว เป็นเราเราก็ไม่ขำ
แต่ฉากที่ขำกันเยอะ ๆ ก็เช่น ตกบันได พายเรือวน คือถ้าขำด้วยแอ็คชั่นเขาก็จะขำกัน
ถ้าขำด้วยคำพูด บางทีมันแปลยาก ไม่ค่อยเก็ท  ตอนจบที่ซึ้ง ๆ จากที่ดูสองรอบ คนก็ร้องไห้กันทั้งสองรอบ    ตรงนี้หนังสื่อออกมาได้ดีมาก ไม่ต้องใช้ภาษาพูดอะไรมาก ก็เข้าใจง่าย ซึ้งตามไปด้วย


ติดต่อสอบถามท่องเที่ยว
http://www.iam-tour.com/

วันจันทร์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

Baratie Odaiba ภัตตาคารของซันจิแห่ง One Piece!!



         คนที่ติดตามวันพีซคงทราบกันดีว่า "ซันจิ" เดิมทีทำงานอยู่ที่ภัตตาคารลอยทะเล "บาราติเอ" (Baratie) ก่อนจะมาเข้าร่วมขบวนการโจรสลัดหมวกฟางความโด่งดังของวันพีซที่ญี่ปุ่น  ทำให้ทุกสิ่งอย่างกลายเป็นวันพีซไปหมด ช็อปเปอร์กลายเป็นตัวละครที่อยู่บนของที่ระลึกทุกชนิด ขึ้นไปเทียบชั้นโดเรมอนและคิตตี้เรียบร้อย และในที่สุดภัตตาคาร "บาราติเอ" ก็ถูกสร้างขึ้นจริงๆ ซะด้วย

       
               ภัตตาคารนี้อยู่ที่โอไดบะ (Odaiba) ซึ่งเป็นเขตเมืองใหม่ของโตเกียว (ที่เกิดจากการถมทะเล) บริเวณแถบโอไดบะมีห้างสรรพสินค้ามากมาย


โดย Baratie ตั้งอยู่ที่ตึกของ Fuji TV ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของโอไดบะครับ (ตึกที่มีลูกเหล็กกลมๆ อยู่ในรูปนั่นแหละ)


                            แน่นอนว่าหัวเรือโกอิ้งแมรี่ก็เป็นจุดถ่ายรูปสำคัญที่ใครๆ ก็ต้องมาถ่าย


                                          โลโก้แบบชัดๆ Baratie One Piece Restaurant


                                        สัตว์ทะเลสารพัดชนิดรอการลิ้มลองจากท่าน

  เมนูอาหาร แบบเต็มๆ ดูได้จาก เว็บของร้าน Baratie (ญี่ปุ่นล้วน, Google Translate ช่วยได้) มีทั้งอาหารที่อิงตามคาแรกเตอร์ในเรื่อง และอาหารธรรมดาที่ไม่ค่อยเกี่ยวกัน


จากภาพด้านซ้าย รูปกลางเป็นสเต๊กของแชงคูส (3 รอยบาก) และรูปล่างคือ ข้าวแกงกะหรี่ของโคบี้


เครื่องดื่มตามตัวละครในโจรสลัดหมวกฟางเกือบครบคน (ดูสัญลักษณ์ประกอบ) ของนามิเป็นน้ำส้ม ของซันจิเป็นบลูโซดา


                             อาหารอื่นๆ และของหวานครับ ที่เจ๋งคืออาหารทานเล่นเป็นกล่องสมบัติ (ไก่ทอด เฟรนช์ฟราย) ด้านขวามีขนมทำเป็นหน้าบากี้ด้วย


สำหรับคนที่อยากได้ของเจ๋งจริงๆ ต้องไปตอนเย็นแล้วสั่ง Dinner Course จะมีของหวานพิเศษที่ไม่มีเป็นเมนูแยกคือ "ผลปีศาจ" ให้ด้วยนะ

                                            ปรากฏว่าเป็นเขาเองครับ เซฟขาแดง!!!



เซฟออกมาโหวกเหวกตามบทอยู่สักครู่ ก็เดินออกมาถ่ายรูปกับแฟนๆ (มีขาเดียวจริงๆ นะ ไม่รู้ยัดกันยังไง)
                           

ของชำร่วยสารพัดชนิดในญี่ปุ่น แปะคาแรกเตอร์วันพีซแล้วขายได้หมด อันที่เห็นเป็นพวงกุญแจสโมสรฟุตบอลใน J-League ที่ห้อยคาแรกเตอร์ลูฟี่ โซโล ช็อปเปอร์ ฯลฯ



ติดต่อเพิ่มเติมท่องเที่ยว

วันอาทิตย์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

Moon light (EXO) Lyrics


Moon Light (EXO)

Yeah, stop, stop.
oh oh, 후~ Stop, stop.

คิพพอจิน ฮารู ทึม ซาอี นอนึน โชยงฮี ทากาวา

ออดุมมึล คอดดอแนโก นาเอ ชัมมึล แกวอ

คือรีกน มอลรอจยอ ยอลริน ชัมมุน ชอ นอมอโร

โต กิลรึล อิลรอทนา นอน นอน นอน

บัมกงกีกา อาจิก ชากาวอ อิลรอนา

So, baby, hold on นอล ฮนจา ทูกีกา

นัน คอกจองงี ดเว คอริล ทูโก นอเอ ดวีรึล ตารากอล

นอน ซดดาจีนึน ทัลบิทเช ชยาวอ

คือ ฮวังฮลฮัน พโยจองงึน บน ชอกกี ออบซอ

คือริมชอรอม มอมชุน นีกา โบยอ

คือ ชีซอน กึทเทน

ทัดฮึล ซูกา ออบนึน อันกิล ซูโด ออบนึน กท

ซูมยอน วีเอ พีชิน กอน คือ ซารัมมี อานียา

อีรวอจิล ซู ออบนึน ซึลพึน นอเอ story

คากาวอจิลซูรก ทอ อาพาจิล เทนี

คือ ซารังมันนึน... Stop, stop, stop, stop, yeah

คือ ซารังมันนึน... Stop, stop, stop, stop, yeah

อีรอคเค แนกา นอล แอทาเก พุลรอ

ทากากาจี มา babe คือ นัลแกกา ชอทจือนี

อามูรี มัลแฮโด นอน ทึลรีจี อันนา

ทาชี คือเอเก อน มมมึล ดอนจยอ เว นอน วีฮอมฮัน กุมมึล กุลกา

(อีเจ คือมัน ชีชิน) นอเอ มัมมึล ชวีเก แฮ

นอล พาราโบนึน แน มัมโด จิทจอจิล กอท กัททึนเด

นอน ซดดาจีนึน ทัลบิทเช ชยาวอ

คือ ฮวังฮลฮัน พโยจองงึน บน ชอกกี ออบซอ

คือริมชอรอม มอมชุน นีกา โบยอ

คือ ชีซอน กึทเทน

ทัดฮึล ซูกา ออบนึน อันกิล ซูโด ออบนึน กท

ซูมยอน วีเอ พีชิน กอน คือ ซารัมมี อานียา

อีรวอจิล ซู ออบนึน ซึลพึน นอเอ story

คากาวอจิลซูรก ทอ อาพาจิล เทนี

คือ ซารังมันนึน... Stop, stop, stop, stop, yeah

คือ ซารังมันนึน... Stop, stop, stop, stop, yeah

อีรอคเค แนกา นอล แอทาเก พุลรอ

ทากากาจี มา babe คือ นัลแกกา ชอทจือนี

นอน อามู อิล ออบดอน กอทชอรอม แอซอ นารึล ฮยังแฮ อุซซอ โบยอโด

คานยอริน แซฮายัน นอเอ ออแกกา โชคือมัดเก ตอลรยอวา I’m telling you

ชัมชีมัน นาเอ กยอทเทซอ แนรยอนดโก ชวีออกาโด ดเว

มอนดงงี ทือมยอน ชอ ทัลรี ชอมูนึน คือ กซซึล ตารา คือแตน นัลรากา yeah

ทัดฮึล ซูกา ออบนึน ฮัมเก ฮัล ซู ออบนึน กท

บัมมี ดเวมยอน นัลรา อน คือกอน นีกา อานียา

อีรวอจิล ซู ออบนึน (นุนมุล ฮึลรอ) ซึลพึน นาเอ Story (นาเอ Story)
g)
คากาวอจิลซูรก ทอ อาพาจิล เทนี (I swear I cannot stop loving)

อี ซารังมันนึน... Stop, stop, stop, stop, yeah (tonight)

อี ซารังมันนึน... Stop, stop, stop, stop, yeah (tonight)

อีรอคเค แนกา นอล แอทาเก บุลรอ

มอลรอจีจี มา babe คือนัลแกกา ชอทจือนี



ติดต่อสอบถามท่องเที่ยว

เนื้อเพลง Bite My Lower Lip (The Heirs)



เนื้อเพลง   Bite My Lower Lip (The Heirs)

อาเลชอิบซุล มลเล มุลโก นุน ชีกึอชี กัมชี

เน มุมอึน เชวอโอนึน ชอลเลมอึล กัมชวอ

ออนชี ซากู กันชีลอวอ นอล เซงกักฮามยอน ฮนชา มัลอึล กอนเนเก เดว

Give me a perfect day Oh I’ll stay, by your side

นัน บยอลซอ เม มัม บันอึล ดึลกิน กอล

กีเตเฮโดชกอึน นัลอีอล กอยา ชกอึน มันชัน ตึกดา กาอล กอยา

ฮิมดึน นาลึล ชิกยอ บาลาบวา ชุล ฮัม ซาราง นออิน กอช กัทอึน กีบุน ตือนึน กอล 

I wanna make you mine forever

กึนออซิล ดึช อีซอชีนึน เฮมัลอึน อุชอึม นุน ตอโบมยอน เน กอชอิน กอล

Give me a perfect day. Oh I’ll stay, by your side

นัน บยอลซอ เม มัม บันอึล ดึลกิน กอล

กีเตเฮโดชกอึน นัลอีอล กอยา ชกอึน มันชัน ตึกดา กาอล กอยา

ฮิมดึน นาลึล ชิกยอ บาลาบวา ชุล ฮัม ซาราง นออิน กอช กัทอึน กีบุน ตือนึน กอล 

I wanna make you mine I wanna make you mine

บุนมยอง ชกอึน ซาลัม มันนัน กอล กอยา มชชิน อิลมัน ชันตึก เชงกยอชุล กอยา

ซารางฮานาโลโด ชุงบุนฮัล กอช กัทอึน กอล

nothing’s better, better than I love

กีเตเฮโด ชกอึน ซารางอี กอยา ชกอึน อิลมัน ชันตึก ดากาอล กอยา

ฮิมดึน นาลึล ชิกยอ บาลาบวา ชุล ฮัม ซาราง นออิน กอช กัทอึน กีบุน ตือนึน กอล 

I wanna make you mine oh mine oh mine





ติดต่อสอบถามท่องเที่ยวเกาหลี

Eternal Jin Akanishi Lyrics


Eternal 

好きとか嫌いとか  
簡単な言葉じゃ伝える事ができない 
1年に1度の特別なこの日を  
何度でも いつまでも 一番近くで 

suki toka kirai toka 
kantan na kotoba ja tsutaeru koto ga dekinai 
ichi nen ni ichido no tokubetsu na kono hi wo 
nan do demo itsumademo ichiban chikakude 

Like and dislike 
It is not something that can be put easily in words 
Once a year, on this special day 
Time and time again, always, closest to you 

รักหรือเกลียด 
มันไม่ใช่เรื่องที่จะพูดออกไปได้ง่ายๆ 
ใน 1 ปีจะมีวันพิเศษอย่างนี้ 1 ครั้ง 
ไม่ว่าจะกี่ครั้ง ไม่ว่าเมื่อไหร่ อยู่ใกล้คุณที่สุด 

無邪気な笑顔かわらない仕草 
一つ一つすべてが宝物 

mujaki na egao kawaranai shigusa 
hitotsu hitotsu subete ga takara mono 

The innocent smile, and the unchanged gestures 
Every single one of them are my treasure 

รอยยิ้มที่ไร้เดียงสา กับท่าทางที่ไม่เคยเปลี่ยนไปของคุณ 
ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแต่เป็นสิ่งล้ำค่าสำหรับผม 

あなたが笑って 生きてる 
ただそれだけで  
うれしくて 暖かくて 優しくなれる 
僕の未来を照らしてる 

anata ga waratte ikiteru 
tada sore dakede 
ureshikute atatakakute yasashi kunareru 
boku no mirai wo terashiteru 

For you to live your life smiling 
Only just that 
It make me feel joy, warm and I could be gentle 
you make my future seems so bright 

แค่คุณมีชีวิตอยู่ด้วยรอยยิ้ม 
เพียงแค่เท่านั้น 
ทำให้ผมมีความสุข อบอุ่น อ่อนโยนขึ้นมาได้ 
อนาคตของผมดูสดใสขึ้น เพราะคุณ 

暖かくれた温もり 
大きな愛に包まれて 
いつだって歩んでる 
友達のたくさんの 優しさを胸に 
ふざけては けんかして 
わかち合う 喜び 

atataka kureta nukumori 
ookina ai ni tsutsumarete 
itsudatte ayun deru 
tomodachi no takusan no yasashi sa wo mune ni 
fuzake dewa kenkashite 
wakachiau yorokobi 

Wraped up in your love that is so big, it gave me the warmth, whenever I walk 
My heart filled with lots of friends’ gentleness 
Joking and fighting 
Sharing joy 

ความอบอุ่นที่ได้รับ 
ความรักอันยิ่งใหญ่ที่ห่อหุ้มตัวผมไว้ 
ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่ผมก้าวเดินไป 
ความอ่อนโยนของเพื่อนมีอยู่เต็มในหัวใจ 
แกล้งกัน ทะเลาะกัน 
ความสุขที่มีร่วมกัน 

数えきれない程の思い出 
これからも共に 描くの 

kazoe kirenai hodo no omoide 
kore kara mo tomo ni egakuno 

Those uncountable memories 
From now on, let's draw it together 

ความทรงจำอันนับไม่ถ้วน 
จากนี้ไป มาสร้างมันด้วยกันนะ 

例えば いつかこの世界で  
生まれ変わっても 
僕らはそれぞれ 同じように出会い 
同じようにあなたを愛すでしょう 

tatoeba itsuka kono sekai de 
umare kawattemo 
bokura wa sore zore onaji you ni deai 
onaji you ni anata wo aisu de shou 

If I were to be born in this world again someday 
We will each meet again in the same way 
And I will love you again like this too 

ถ้าหากว่าสักวันหนึ่ง เราเกิดใหม่บนโลกใบนี้ 
พวกเราทั้ง 2 คน จะกลับมาเจอกันแบบนี้อีก 
และผมก็คงจะรักคุณเหมือนเดิม แบบนี้อีก 

乗り越えなきゃならない事もあるけど 
負けないで 何があっても そばにいるから 

nori koe na kya nara nai koto mo aru kedo 
makenaide nani ka attemo soba ni iru kara 

Though there’s something you have to overcome 
don’t lose to it, no matter what happens 
I'll be by your side 

ถึงบางครั้งจะมีเรื่องที่ต้องก้าวผ่านไปให้ได้ 
แต่อย่ายอมแพ้นะ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม 
ผมจะอยู่ข้างๆ คุณ 

例えば 願いが かなうなら 
悲しみの涙が  
もう二度と あなたにこぼれないように 
魔法をかけてくれますか? 

tatoeba negai ga kanau nara 
kanashimi no namida ga 
mou nido to anata ni koborenai you ni 
mahou wo kakete kuremasu ka? 

If my wish could come true... 
The tears of sadness would never fall down from your eyes again 
Could someone cast the magic on you for that? 

ถ้าหากคำขอเป็นจริงได้ 
ขออย่าให้คุณต้องหลั่งน้ำตาแห่งความเสียใจอีกเลย 
จะมีใครช่วยร่ายเวทมนต์นั้นให้ได้มั้ยนะ? 

あなたと 共に 生きてる  
素敵な笑顔で 胸はって 手をつないで 
寄り添って歩いてく そんな未来を待ってる 

anata to tomo ni ikiteru 
suteki na egao de mune hatte te wo tsunaide 
yorisotte aruiteku sonna mirai wo matteru 

I'll be living with you 
With wonderful smiles and my chest puffed 
Walking together, hand in hand 
I’m waiting for that future 

จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับคุณ 
ด้วยรอยยิ้ม หัวใจของผมเต็มตื้น 
2 มือจับจูง เดินไปด้วยกัน 
ผนเฝ้ารออนาคตเช่นนั้นอยู่ 

今日もありがとう 

kyou mo arigatou 

and thank you for today too

และขอบคุณสำหรับวันนี้ด้วย

http://www.youtube.com/watch?v=RlOSG7htjAQ


ติดต่อสอบถามท่องเทียว

วันอังคารที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

KAT-TUN



ประวัติวง KAT-TUN



KAT-TUN เป็นศิลปินสังกัดจอห์นนี่ ที่ก่อตั้งเมื่อปี 2001  แต่เดิมเป็นยูนิตชั่วคราว backdancer ให้กับ โดโมโตะ โคอิจิ (Kinki Kids) ในรายการ Pop Jam แต่ KAT-TUN ก็ได้รับความสนใจอย่างมากจนต้องกลายเป็นยูนิตถาวร   ชื่อวงตั้งจากตัวอักษรแรกของนามสกุลสมาชิกแรกเริ่ม 6 คน ได้แก่  
       
       K คาเมนาชิ คาซึยะ ( Kamenashi Kazuya, )
       A อาคานิชิ จิน (, Akanishi Jin, )
       T ทากุจิ จุนโนะสุเกะ (Taguchi Junnosuke, )
       T ทานากะ โคคิ ( Tanaka Koki, )
       U อุเอดะ ทาซึยะ ( Ueda Tatsuya, )
       N นากามารุ ยูอิจิ (Nakamar  Yuichi, )


Kamenashi Kazuya (คาเมะ) 
วันเกิด :  23 กกุมภาพันธ์  ค.ศ  1986  ( อายุ28ปี )
สถานที่เกิด : จังหวัดโตเกียว  ประเทศญี่ปุ่น
ส่วนสูง : 170
น้ำหนัก :  60
กรุ๊ปเลือด :  B
ตำแหน่ง  ; นักร้องนำ











       Akanishi Jin   (จิน)
         วันเกิด  : 4 กรกฎาคม ค.ศ 1984 (อายุ 30)
         สถานที่เกิด :  จังหวัดชิบะ ประเทศญี่ปุ่น
         ส่วนสูง  : 175
         น้ำหนัก   : 65
         กรุ๊ปเลือด : O
         ตำแหน่ง   : นักร้องนำ












   Taguchi Junnosuke 
    วันเกิด   : 29 พฤศจิกายน ค.ศ. 1985  (อายุ 29 ปี)
    สถานที่เกิด : จังหวัดชิบะ ประเทศญี่ปุ่น
    ส่วนสูง   :  182
    น้ำหนัก   :   64
    กรุ๊ปเลือด  : AB
    ตำแหน่ง   : 













     Tanaka Koki
       วันเกิด : 5 พฤศจิกายน  ค.ศ  1986 (อายุ28ปี )
        สถานที่เกิด : จังหวัดชิบะ  ประเทศญี่ปุ่น
        ส่วนสูง : 171
        น้ำหนัก :  60
        กรุ๊ปเลือด :  B
        ตำแหน่ง  : แร๊ปเปอร์










  Ueda Tatsuya
  วันเกิด :  4 ตุลาคม  ค.ศ  1983  ( อายุ31ปี )
  สถานที่เกิด : จังหวัดชิบะ  ประเทศญี่ปุ่น
  ส่วนสูง : 172
  น้ำหนัก :  60
  กรุ๊ปเลือด :  B
  ตำแหน่ง  :











   Nakamaru Yuichi  
    วันเกิด :  4 กันยายน ค.ศ  1983  ( อายุ31ปี )
    สถานที่เกิด : จังหวัดโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
    ส่วนสูง : 175
    น้ำหนัก :  55
    กรุ๊ปเลือด :  B
    ตำแหน่ง  :  บีทบ๊อก








     
KAT-TUN โด่งดังตั้งแต่ยังไม่เดบิว   สร้างสถิติหลากหลายตั้งแต่ยังเป็นจูเนียร์   ด้วยความโด่งดังเลยเป็นจอห์นนี่ส์จูเนียร์วงแรกที่ได้มีคอนเสิร์ตเป็นของตัวเอง   ด้วยจุดขายของวงเรื่องการทัวร์คอนเสิร์ตที่มักจะร้อนแรงกระแทกใจและมันส์หยดโดยใจสาวก  เป็นความแปลกใหม่จากบอยด์แบนด์ญี่ปุ่นในยุคนั้น 


 ทำให้แม้ยังไม่เดบิวแต่ก็สามารถส่ง DVD คอนเสิร์ตไปเป็น DVD ขายดีที่สุดประำจำปีของญี่ปุ่น แม้ความโด่งดังในระดับศิลปินแต่ก็ยังไม่ได้รับอนุญาตให้เดบิวจนกระทั่งปี 2006   KAT-TUN เดบิวด้วยยอดขายซิงเกิ้ลแรกเป็นล้าน


พร้อมกับสถิติที่ตามมาอีกมากมาย  ทั้งศิลปินที่ยังไม่เดบิววงแรกที่ได้เปิดคอนของตัวเองที่ โตเกียวโดม   ศิลปินแรกที่สามารถเปิดคอนเสิร์ตในสถานที่จุมากกว่า 50000 คน ได้ 8 รอบติดต่อกัน  ฯลฯ


แต่แล้วพลังรุนแรงที่เมมเบอร์แสดงออกในคอนเสิร์ต ก็ได้รับการพิสูจน์ว่ามันไม่ใช่การแสดง  บรรยากาศมาคุที่เห็นมันเป็นเรื่องจริงทำให้หนึ่งสมาชิกคนสำคัญ  อาคานิชิ จิน ขอลาออกไปเป็นศิลปินเดี่ยวในปี 2010     KAT-TUN ดำเนินกิจกรรมต่อในฐานะวง 5 คน



จนกระทั่งปีที่แล้ว 2012 เกิดข่าวช็อคอีกระลอก  จอห์นนี่ไม่ต่อสัญญากับสมาชิกคนสำคัญอีกคนอย่าง มือแร็พของวง ทานากะ โคคิ   ทำให้ KAT-TUN กลายเป็นวง 4 คนไปโดยปริยาย  



ถึงกระนั้นสถิติของ KAT-TUN ยังคงดำเนินต่อโดยอัลบั้ม 楔-kusabi- ล่าสุดก็ทำให้วงขึ้นมาครองสถิติศิลปินที่มีอัลบั้มอันดับ 1 ติดต่อกันตั้งแต่ชุดแรกมากที่สุดในประวัติศาสตร์ 7 อัลบั้มติดต่อกัน (ไม่นับอัลบั้มโซโล่ของศิลปินกลุ่ม) (ครองสถิติร่วมกับ อุทาดะ ฮิคารุ)   ส่วนสถิติซิงเกิ้ลที่อันดับ 1 เป็นของรุ่นพี่ Kinki Kids  ก็มีอันดับ 2 เป็นของ KAT-TUN ที่ทำอันดับ 1 ซิงเกิ้ลติดต่อกันตั้งแต่เดบิว (21 ซิงเกิ้ล)  




ติดต่อท่องเที่ยว
http://www.iam-tour.com/