วันอาทิตย์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

5 อันดับสถานที่สยองขวัญในญี่ปุ่น.!!

อันดับที่ 5


Keishin Radiology Hospital
Keishin เป็นโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัด Kanagawa ซึ่งเคยถูกวาดฝันไว้ให้เป็นสถานที่ที่มีอุปกรณ์ทางการแพทย์ด้านรังสีเทคนิคที่ก้าวหน้าที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น แต่ก็ไปไม่ถึงฝัน โรงพยาบาลถูกยึดทรัพย์ และเหลือสภาพอย่างที่เห็น

อันดับที่ 4


โอซาระ(Osora)
โอซาระเป็นอดีตภูเขาไฟในเขตอาโอโมริ ซึ่งถูกค้นพบในศตวรรษที่ 16 เป็นภูเขาหินที่ทบไม่มีสิ่งมีชีวิต เนื่องจากบริเวณแถบนั้นเต็มไปด้วยก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซน์หรือก๊าซไข่เน่าที่ออกจากทะเลสาปโดยรอบ ซึ่งชาวญี่ปุ่นเชื่อกันว่ากันว่าเป็นดินแดนแห่งโลกวิญญาณเชื่อมต่อกับโลกมนุษย์
                ตามความเชื่อของญี่ปุ่นที่นี้เปรียบเสมือนประตูนรกที่คนตายและคนใกล้ตายจะมารวมตัวกัน โดยมีแม่น้ำสามสายไหลผ่าน กล่าวกันว่าหากเด็กคนไหนเสียชีวิตลงก่อนพ่อแม่จะถูกลงโทษฐานทำให้พ่อแม่ทุกข์ใจ วิญญาณของเด็กๆ เหล่านี้จะต้องเรียงหินก้อนเล็กๆ แต่ละก้อนเพื่อสร้างเจดีย์ แต่พอใกล้สำเร็จจะถูกปีศาจ "จิโซคากุ" ออกมาทุบทำลาย ทำให้เด็กเหล่านั้นไม่มีทางสร้างเจดีย์เสร็จได้

อันดับที่ 3


ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle)
ปราสาทฮิเมจิ เป็นปราสาทญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเมืองฮิเมจิ จังหวัดเฮียวโงะ เป็นสิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งที่เหลือรอดมาจากยุคสงคราม และได้รับให้เป็นมรดกโลกและสมบัติประจำชาติญี่ปุ่น และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ที่ชาวญี่ปุ่นชอบมาที่สุด


                ว่ากันว่าปราสาทแห่งนี้เป็นมีผีสิง เป็นวิญญาณทรมานของหญิงสาวที่ต้องการเรียกร้องความเป็นธรรมที่ชื่อ "โอกิกุ(Okiku)" ซึ่งที่มาก่อนที่โอกิกุค่อนข้างสับสน มีหลายเวอรชั่น ว่ากันว่าเธอเป็นสาวใช้ของอาโอยาม่า(Aoyama) และบังเอิญไปได้ยินความลับสุดยอดของเจ้านายเข้า และนำความลับไปเล่าให้คนรักของเธอฟัง ทำให้แผนการของอาโอยาม่าล้มเหลวในที่สุด เมื่ออาโอยาม่ารู้ว่าโอคิคุเป็นคนแอบได้ยินเรื่องแผนการ เป็นต้นเหตุทีทำให้แผนล้มเหลว อาโอยาม่าจึงวางแผนจะสังหารเธอซะ อาโอยาม่าจึงใส่ความโอกิกุว่า เธอขโมยจานที่ล้ำค่าไป 1 ใบซึ่งในชุดจานนั้นจะมี 10 ใบด้วยกัน โอคิคุถูกทรมานจนตาย และถูกทิ้งศพลงบ่อน้ำ

อันดับที่ 2


ฮาชิมะ
  เกาะแห่งนี้ต้องเดินทางด้วยเรือจากฝั่งทะเลของเมืองนางาซากิ ออกไปประมาณ 15 กิโลกเมตร บนทะเลจีนตะวันออก จะพบเมืองเล็กๆ ที่ดูทันสมัย กลางทะเล แต่ถ้าเกิดมองลึกๆ จะพบว่ามันร้างอย่างน่ากลัว และได้รับการโจษจันว่าผีดุ!!
 ความเป็นมาดั้งเดิมของเกาะนี้  แต่เดิมเมืองนี้ชื่อ Gunkanjia หรือ Battleship Island เกิดขึ้นในยุคที่อุตสาหกรรมถ่านหินเฟื่องฟู ค.ศ. 1887 ก่อสร้างโดยบริษัทมิตซูบิชิ(Mitsubishi) ซึ่งใช้เป็นที่พักในลักษณะเมืองขนาดเล็ก มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับพนักงานจำนวนมาก มีทั้งอพาร์เมนต์ โรงเรียนประถม สนามเด็กเล่น โรงภาพยนตร์ บาร์ โรงพยาบาล ทว่า.......ในยุค 60 อุตสาหกรรมถ่านหินในญี่ปุ่นค่อยๆ ทยอยปิดตัวลง เนื่องจากถ่านหินหมอความนิยมจากการใช้พลังงานเชื่อเพลิงอย่างอื่น...จนกระทั่งปิดตัวลงอย่างถาวรในปี 1974...ทุกวันนี้เหลือเพียงแต่เศษซากของความรุ่งเรืองทิ้งไว้ให้ระลึกถึงอดีต

อันดับที่1 ป่าอาโคคิกาฮาระ


ญี่ปุ่นถือได้ว่าเป็นประเทศที่มีสถิติคนฆ่าตัวตายเป็นอันดับต้นๆ ของโลกเพราะวัฒนธรรมของญี่ปุ่นมองว่า การฆ่าตัวตายเป็นทางเลือกที่มีเกียรติ(อย่างฮาราคีรีไงล่ะ) และสถานที่ชาวญี่ปุ่นนิยมไปฆ่าตัวตายที่สุดคือป่าอาโคคิกาฮาระ
ป่าอาโคคิกาฮาระ มีชื่อเรียกอีกอย่างว่าจูไคซึ่งคนญี่ปุ่นเรียกขานว่า "ป่าฆ่าตัวตาย"สถานที่แห่ง อยู่บริเวณตีนภูเขาไฟฟูจิ มีพื้นที่ประมาณ 3000 เอเคอร์  ซึ่งเป็นจุดชมความงามของภูเขาฟูจิ แต่ขณะเดียวกันก็เป็นจุดหมายปลายทางสำหรับคนที่คิดฆ่าตัวตายด้วยเช่นกัน โดยสถิตพบว่าสถานที่แห่งนี้มีคนมาฆ่าตัวตายเป็นอันดับ 2 ของโลก
ติดต่อสอบถามท่องเที่ยว



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น